roy keane

ตำแหน่ง: กองกลาง, มิดฟิลด์
วันเกิด: 10 สิงหาคม 1971 (49 ปี)
สถานที่เกิด: คอร์ก, ไอร์แลนด์
น้ำหนัก 76
ส่วนสูง 180
ทีมชาติ: ไอร์แลนด์

กีฬาบนโลกใบนี้มีแยกประเภทออกเป็นหลายหมวดหมู่ซึ่งกีฬาที่เป็นการแข่งขันกันเป็นทีม ส่วนใหญ่ก็จะต้องมีผู้เล่นตามระบบหรือตำแหน่ง นั้นๆ และกีฬาประเภททีมจะขาดผู้นำที่ค่อยสั่งการหรือปลุกเร้าเพื่อนรวมทีมไปไม่ได้เลย ซึ่งผู้เล่นที่มีอิทธิพลเหล่านี้จะถูกเรียกว่า “กัปตันทีม” วันนี้ทาง Reddevilfams จะมานำเสนอประวัติโคตรกัปตันพันธุ์ดุของสาวกปีศาจแดง ที่แอดเชื่อว่า ณ ปัจจุบันนี้ แมนยู ยังคงหากัปตันที่เหมือนเค้าคนนี้หรือใกล้เคียงแถบไม่ได้เลย ใช่แล้ว เค้าคือ “Roy Keane”

รอย มอรีซ คีน (อังกฤษ: Roy Maurice Keane; เกิด 10 สิงหาคม ค.ศ. 1971) คีน เกิดในครอบครัวของชนชั้นแรงงาน ที่ เมย์ฟิลด์ ชานเมือง คอร์ก พ่อของเขา เมาริซ ต้องรับจ้างทำงานทุกที่ เนื่องจากวิฤติทางเศรษฐกิจอันฝืดเคืองในช่วงนั้น คีน เป็นอดีตกัปตันทีมและนักฟุตบอลทีมชาติไอร์แลนด์ อดีตกัปตันทีมและนักฟุตบอลสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและสโมสรฟุตบอลเซลติก และเป็นอดีตผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลอิปสวิชในฟุตบอลลีกเดอะแชมเปี้ยนชิพของอังกฤษ

รอย คีน เริ่มเข้าสู่วงการฟุตบอลกับ คอบห์ รัมเบลอร์ส ต่อมา ไบรอัน เคลาจ์ ได้ติดต่อ และพาเขาย้ายไปเล่นให้กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในขณะที่เขาอายุได้ 18 ปี โดยการลงสนามนัดแรกของเขาเป็นบทพิสูจน์ตัวเขาเองอย่างแท้จริง เมื่อทีมต้องไปเยือนลิเวอร์พูล ทีมซึ่งได้แชมป์ลีกในปีนั้น และเขาก็จบฤดูกาลแรกที่เขาเล่นให้กับทีมแบบเต็มที่ กับการลงเล่นในเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรก ในปี 1991 เมื่อเขาอายุได้ 20 ปี

จากฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นของเขา ก็ไม่สามารถหลุดรอดผ่านสายตาของผู้จัดการทีมชาติไปได้ โดย แจ็ค ชาร์ลตัน ผู้จัดการทีมสาธารณรัฐไอร์แลนด์ในขณะนั้น เรียกเขาติดทีมชาติในเดือน พฤษภาคม ปี 1991

ในฤดูกาลหลังจากนั้นน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทีมของเขาก็พ่ายให้กับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 – 0 ในลีก คัพ รอบชิงชนะเลิศ อีกทั้งทีมต้องตกชั้นในฤดูกาลถัดมา ทำให้ในช่วงปิดฤดูกาลการแย่งชิงตัวเขาจึงเกิดขึ้น และผู้ที่สามารถเซ็นสัญญาได้ตัวเขาไปร่วมทีมก็คือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับค่าตัว 3.75 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นค่าตัวที่แพงที่สุดของสโมสร และของทีมในเกาะอังกฤษเวลานั้น

ในระหว่างที่เขาเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งทักษะ การขับเคลื่อน การตัดสินใจ และความมุ่งมั่นในเกมทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ไม่มีใครสามารถแทนที่ได้ ทำให้หลายคนต่างเปรียบเขากับอดีตนักเตะตำนานของทีม ไบรอัน ร็อบสัน เลยทีเดียว

roy keane

คีโน่ได้ตำแหน่งเป็นถึงกัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งรับช่วงต่อจาก เอริค คันโตน่า หลังจบฤดูกาล 1996-1997 เมื่อก็องโต้ ประกาศแขวนสตั๊ด แต่ก่อนเริ่มฤดูกาลแรกของการเป็นกัปตันทีมเพียงไม่กี่วัน เขากลับต้องพบกับอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่า ทำให้ต้องพักเป็นระยะเวลานานทีเดียว

มีผู้เชี่ยวชาญหลายต่อหลายคนให้ข้อสังเกตว่า ฤดูกาลใดก็ตามที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สะดุด หรือโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังนั้น มักสืบเนื่องมาจากการขาด รอย คีน และจากการบาดเจ็บของเขาในเดือนกันยายน ปี 1997 ทำให้ทีมปีศาจแดงต้องพลาดแชมป์ในปีนั้น และทีมชาติของเขาเองก็ตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกในปี 1998 ด้วย

ในฤดูกาล 1998-1999 คีนกลับมาลงเล่นด้วยความฟิตเหมือนเดิม และเขาสามารถช่วยทีมได้มากทีเดียว จนกระทั่งในรอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ เขาต้องถูกใบแดงไล่ออกจากสนามตามด้วยการถูกใบเหลืองในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศที่พบกับยูเวนตุส ทำให้เขาไม่ได้ร่วมทีมในนัดแห่งความทรงจำที่บาร์เซโลน่า อย่างไรก็ดี เขาสามารถกลับมาลงเล่นให้กับทีมได้ในนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่พบกับ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ และขึ้นรับถ้วยแชมป์พรีเมียร์ชิพในที่สุด

การเจรจาเซ็นสัญญากับเขาในฤดูกาล 1999-2000 ก็เริ่มขึ้นด้วยการประโคมข่าวต่างๆ นานาของสื่อ ทั้งข่าวที่ว่ากัปตันทีมผู้นี้ปฏิเสธข้อเสนอของสโมสรจนกระทั่งก่อนเริ่มเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก กับบาเลนเซีย ก็มีการประกาศออกมาว่าเขาเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่าเขาจะเล่นให้กับทีมเหมือนไม่มีอะไรหนักอกหนักใจอีกแล้ว

คีนสามารถทำประตูให้กับทีมได้ถึง 12 ประตูในฤดูกาลนั้น ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นประตูที่ได้ในฟุตบอลถ้วยยุโรป และด้วยเหตุนี้เองทำให้เขาได้รับเลือกให้เป็น “นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล” โดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หลังจากนั้นเขาก็ยังพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก เป็นครั้งที่ 7 ของสโมสรในฤดูกาล 2000-2001

roy keane

ทางด้านการลงเล่นให้ทีมชาติ เขาก็ลงเล่นนัดที่ 50 ให้กับทีมชาติ ด้วยชัยชนะเหนือ ไซปรัส 4 – 0 จากฟอร์มการเล่นของเขาช่วยพาทีมผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2002 รอบสุดท้ายได้สำเร็จ โดยอยู่ในกลุ่มเดียวกับโปรตุเกส และฮอลแลนด์ แต่เขาได้มีปัญหากับผู้จัดการทีมชาติ มิค แม็คคาธี่ย์ ทำให้ต้องถูกส่งตัวกลับประเทศและไม่สามารถลงเล่นช่วยทีมชาติได้ในขณะนั้น สื่อต่างก็ประโคมข่าวกันมากมายว่าเกิดอะไรขึ้น และทำนายกันว่าจะเกิดอะไรตามมา โดยหลังจากนั้นไม่กี่เดือนคีนก็ออกมาประกาศเลิกเล่นให้กับทีมชาติไอร์แลนด์ ในที่สุด

เขาโชคไม่ค่อยดีนักเมื่อต้องเข้ารับการผ่าตัดบริเวณสะโพก และต้องพักไปอีกหลายเดือนในช่วงต้นฤดูกาล และเมื่อเขากลับมา ก็ดูเหมือนว่าเขาจะสงบ และใจเย็นขึ้นในการลงสนาม และแม้ว่าจะมีคำถามมากมายจากแฟนบอล และสื่อมวลชนว่าเขาจะอยู่กับทีมอีกนานแค่ไหน และจะย้ายออกไปเมื่อไหร่ แต่คีนเองก็ตอบคำถามนี้ด้วยตนเองว่า “ผมยังคงมีงานต้องทำที่นี่อีกอย่างน้อย 2 – 3 ปีนี่แหละ” ซึ่งนั่นก็คงสร้างความมั่นใจให้กับแฟนปีศาจแดงได้ไม่น้อย

roy keane

ตลอดระยะเวลา 12 ปี ในโรงละครแห่งความฝัน รอย คีนลงเล่นรับใช้สโมสรไปถึง 480 นัดกับ 51 ประตู เขาพาทีมประสบความสำเร็จมากมายตลอดช่วงเวลานั้น แชมป์ลีก 7 สมัย เอฟเอ คัพ 4 สมัย ยูฟ่าแชมเปี้ยน ลีกกับแชมป์สโมสรโลกอีกอย่างละครั้ง ถึงแม้ว่าเขาจะพลาดลงเล่นในเกมนัดชิงที่คัมป์ นู เพราะไปตัดฟาล์วจนโดนใบเหลืองในรอบรอง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าถ้าโดนเหลืองเขาจะไม่สามารถลงเล่นได้ แต่สำหรับเขาแล้วขอเพียงทีมได้ไปต่อเขาก็พร้อมที่จะเสียสละ และลูกทีมของเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง โกงความตายชนะบาเยิร์น มิวนิคในนาทีสุดท้ายได้สำเร็จ

ถึงแม้ว่าสุดท้ายเขาจะปิดตำนานการค้าแข้งที่ในโรงละครแห่งความฝัน ได้ไม่สวยนัก เพราะไปมีปากเสียงกับนายใหญ่จนต้องย้ายไปอยู่กับเซลติกที่สก็อตแลนด์ก่อนแขวนสตั๊ดหนึ่งปี แต่สิ่งที่เขาทิ้งไว้ให้แฟนบอลปีศาจแดงนั้น มันคือความยิ่งใหญ่ซะจนยากที่จะหาใครมาลบล้างมันได้ และไม่ว่าเวลาจะผ่านมาแล้วถึง 15 ปีแต่ในใจแฟนปีศาจแดงแล้ว ภาพของเขาก็ยังถูกจดจำในฐานะ กัปตันทีมจอมโหดผู้ไม่ยอมแพ้ใครหน้าไหนอยู่เช่นเดิม

roy keane manchester united

แก้แค้น 3 ปี ไม่มีวันสาย

เหตุการณ์วีรกรรมสุดโด่งดังที่ตัวคีโน่นั้น ได้ถีบสุดโหดเข้าใส่ อัลฟ์-อิงเก้ ฮาแลนด์ ผู้เล่นของแมน ซิตี้ ในเวลานั้น จนทำให้เจ้าตัวโดนใบแดงไล่ออกไปแบบไม่ต้องสงสัยกันเลยที่เดียว การถีบครั้งนี้รุนแรงมาก ดูเหลี่ยมไหนก็ชัดเจนว่าจงใจเล่นคนมากกว่าเล่นบอล นั่นทำให้รอย คีนโดนเอฟเอแบน 4 นัด ปรับเงินอีก 5 พันปอนด์

ย้อนไปวันที่ 27 กันยายน 1997 เกมพรีเมียร์ลีก นัดที่แมนฯยูไปเยือนอีกคู่ปรับตลอดกาล ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่สนามเอลแลนด์ โร้ด นัดนั้นรอย คีน เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ หลังจากเอริค คันโตน่า ประกาศแขวนสตั๊ดไปแล้ว
ภายในเกมมีจังหวะที่คีน สกัดบอลใส่อัล์ฟ-อิงเก้ ฮาแลนด์ แต่ไปยืดขาผิดเหลี่ยมจนทำให้เอ็นเข่า ACL ขาดสะบั้น รอย คีนนอนลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด
ฮาแลนด์โมโห คิดว่าคีนแกล้งทำ เพราะตัวเองเสียบเองแท้ๆ จะมาแกล้งเจ็บบ้าอะไร ดังนั้นเขาจึงตะคอกใส่คีนที่นอนกองกับพื้นว่าสำออย แกล้งทำเป็นเจ็บจะได้ไม่โดนใบเหลืองจากกรรมการ

เกมนั้นคีนโดนหามออกทันที และแมนฯยูไนเต็ดก็แพ้ลีดส์ไป 1-0 ด้วย
แน่นอนเมื่อ ACL ขาด คุณลงเล่นไม่ได้ขั้นต่ำ 1 ปีอยู่แล้ว และในฤดูกาล 1997-98 แมนฯยูไนเต็ดจึงไม่มีรอย คีนทั้งซีซั่น ก่อนสุดท้ายเสียแชมป์พรีเมียร์ลีกให้อาร์เซน่อลในที่สุด

roy keane injury

เข้าสู่ซีซั่น 2000-01 ฮาแลนด์ย้ายไปแมนฯซิตี้ และในนัดที่ 34 ของฤดูกาล เกมที่โอลด์แทรฟฟอร์ด แมนฯยู เปิดบ้านต้อนรับทีมเรือใบสีฟ้า ซึ่งสถานการณ์ในตอนนี้เป็นช่วงท้ายฤดูกาลแล้ว ทีมปีศาจแดงได้แชมป์พรีเมียร์ลีกไปแล้ว ขณะที่บอลถ้วยอื่นๆ แชมเปี้ยนส์ลีก, เอฟเอคัพ, ลีกคัพ ก็ตกรอบไปหมดแล้ว ดังนั้นนี่เป็นโอกาสที่ดีของคีนในการ “เอาคืน” โดยไม่ส่งผลกระทบต่อทีม
คือต่อให้เขาโดนแบน 3-4 นัด ก็ยังไม่มีผลอะไร จบฤดูกาลแมนฯยูก็แชมป์อยู่ดี แล้วเขาก็จะกลับมาลงเล่นได้ตามปกติในฤดูกาลหน้า
นาทีที่ 86 ของเกม รอย คีน เปิดปุ่มถีบไปที่เข่าขวาของฮาแลนด์อย่างโหดเหี้ยม ซึ่งแน่นอนอยู่แล้ว ไม่มีทางอื่นนอกจากใบแดง

คีนรู้ดีว่านี่ต้องเป็นใบแดง แต่เขาก็ยอม นี่คือการเอาคืนจากที่เคยโดนหาว่าแกล้งเจ็บเมื่อปี 1997 ความแค้น 4 ปียังไม่สายที่จะเอาคืน
ในตอนแรกไม่มีใครรู้ว่ารอย คีนคิดอะไร เขาอาจจะอยากจะเล่นบอล แต่เข้าผิดจังหวะก็ได้ แม้แต่ตัวฮาแลนด์เองก็นึกไม่ถึงว่าคีนจะเอาคืนจากเหตุการณ์เมื่อ 4 ปีก่อน
คีนโดนเอฟเอแบน 4 นัด และปรับเงินข้อหาฟาวล์รุนแรง 5 พันปอนด์ แต่อย่างที่เขาคำนวณไว้แล้ว เกมที่ 35,36,37 และ 38 ของฤดูกาล คีนลงไม่ได้ แต่ก็ไม่มีผลอะไรเพราะแมนฯยูไนเต็ดแชมป์ไปเรียบร้อยแล้ว

roy keane haaland

แต่แล้วในเดือนกันยายน 2002 ราว 1 ปีเศษหลังเกิดเหตุการณ์เสียบ คีน ออกหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองชื่อ “Keane” ซึ่งในหนังสือมีบทหนึ่งที่เขียนถึงจังหวะนี้เอาไว้
“ผมรอมานานมากกว่า 3 ปี ในจังหวะนี้ผมเห็นเขาได้บอลใกล้ๆกับริมเส้น ผมรอจังหวะที่ใช่ที่สุด และอัดเขาแม่งให้หนัก ผมกะจะเล่นบอลหรือเปล่า (งั้นมั้ง) แต่มึงรับลูกถีบกูไปเลย ไอ้เปรต และอย่ามากล้าดี ยืนค้ำหัวกู หาว่ากูแกล้งเจ็บอีก แล้วบอกเพื่อนมึงเดวิด วีเธอร์รัลด้วยนะ ว่าถ้ากูได้เจอมัน จะมีของฝากไปให้เหมือนกัน และแน่นอน ผมไม่ต้องรอให้ผู้ตัดสินเอลเลอเรย์ควักใบแดง ผมหมุนตัวแล้วเดินออกนอกสนามไปด้วยตัวเองเลย”

เกียรติประวัติ รอย คีน

  • พรีเมียร์ลีก 7 สมัย
  • ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย
  • FA community Shield 4 สมัย
  • เอฟเอคัพ 4 สมัย
  • อินเตอร์คอนติเนนตัล 1 สมัย
roy keane

ติดตามข่าวสารแมนยูได้ที่ >>ข่าวล่าสุดแมนยู<<